Green is the new black!
หนังวีแกนที่มาแรง และเป็นที่พูดถึงที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้น plant based leather หนังวีแกนที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ แทนการใช้เส้นใยสังเคราะห์ ที่นอกจากจะช่วยลดของเสียที่เกิดจากการบริโภคแล้ว ยังสามารถย่อยสลายได้ง่าย ก่อมลพิษและคาร์บอนฟุตปริ้นน้อยกว่าหนังชนิดอื่นๆ
หนังวีแกนไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมโลก (ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าหนังวีแกนก็คือหนังเทียม) เพราะหนังเทียมชนิดแรก (PVC)ได้ถูกผลิตขึ้นในศตวรรษที่ 19 และได้มีการพัฒนาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน แต่หนังเทียมส่วนใหญ่ตอนนี้มีพื้นฐานมาจากพลาสติก แม้จะเป็นชนิดที่ย่อยสลายได้และสร้างมลพิษน้อยกว่าหนังเทียมในรุ่นแรก แต่ก็ยังเป็นผลผลิตสังเคราะห์จากพลาสติกอยู่ดี ด้วยเหตุนี้มนุษย์จึงพยายามคิดหาวิธีลดการใช้สารพลาสติก โดยการนำเส้นใยธรรมชาติมาปรับใช้
หนังจากพืชมีหลากหลายชนิดและไม่ได้ทำจากเส้นใยพืชเท่านั้น แต่ยังมีหนังที่ทำจากเห็ด ผลแอ้ปเปิ้ล เปลือกกล้วย ต้นกระบองเพชร ชาเขียว เปลือกกาแฟ หรือแม้แต่น้ำมะพร้าว และอื่นๆ อีกมากมาย บางอย่างนำมาจากของเหลือทิ้งทางการเกษตร เช่นใบจากผลสับปะรด เป็นการนำของเหลือทิ้งมาใช้ให้เกิดประโยชน์
ข้อดีของหนังจากพืชก็มีมากมาย เช่น ปราศจากความรุนแรงต่อสัตว์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเส้นใยที่ได้จากพืชผ่านกรรมวิธีทางเคมีน้อยกว่าเส้นใยสังเคราะห์ จึงทำให้มีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศน้อยกว่า หนังจากพืชบางชนิดมีอายุการใช้งานนานไม่แพ้หนังแท้ แถมยังมีเนื้อสัมผัสและลักษณะพื้นผิวเหมือนหนังแท้อีกด้วย
แต่อย่างไรก็ดี ได้มีข้อถกเถียงว่าหนังจากพืชนั้นดีกว่าจริงหรือไม่ ด้วยหนังเทียมจากพืชตอนนี้ยังมีกระบวนการทางเคมี แม้จะมีการใช้เส้นใยธรรมชาติทดแทนแล้วก็ตาม เช่น การเคลือบหน้าผ้าให้มีผิวสัมผัส และลักษณะเหมือนหนังด้วยโพลียูรีเทน (PU) ซึ่งนับเป็นพลาสติกชนิดหนึ่ง ทำให้เกิดข้อถกเถียงว่าหากผู้ผลิตไม่ได้คำนึงถึงความยั่งยืนอย่างแท้จริงจะเป็นการสร้างอีกหนึ่งปัญหาให้แก่โลกหรือไม่?
แต่ที่แน่นอนคือหนังวีแกนจากพืชสร้างสารพิษตกค้างน้อยกว่าหนังแท้ และหนังเทียมชนิดอื่น ๆ อย่างแน่นอน
.
.
.
.
.
.
.
#veganleather #PUleather #microfiberleather #หนังวีแกน #หนังพียู #หนังไมโครไฟเบอร์ #veganleather #PlantBasedLeather #pvcleather #puleather #MicrofiberLeather #หนังวีแกน #หนังพีวีซี #หนังพียู #หนังไมโครไฟเบอร์ #หนังสังเคราะห์